• Krungthai COMPASS มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน3 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก อนึ่งยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง
Home ACE ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 226.1 ล. คาดปี 68 เปิด COD เพิ่มอีก 20 โครงการ 126.92 MW
ACE ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 226.1 ล. คาดปี 68 เปิด COD  เพิ่มอีก 20 โครงการ 126.92 MW

ACE ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 226.1 ล. คาดปี 68 เปิด COD เพิ่มอีก 20 โครงการ 126.92 MW

ACE ไตรมาสแรกโตเด่น กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติเพิ่มขึ้นกว่า 30% คาดปี 68 เปิด COD เพิ่มอีก 20 โครงการ 126.92 เมกะวัตต์

 

ACE เปิดผลการดำเนินงาน Q1/68 รายได้ 1,634.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 226.1 ล้านบาท กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติเติบโตเด่น รับผลงานโรงไฟฟ้าชีวมวลและโซลาร์ เผยปี 68 มีโรงไฟฟ้าทยอยเปิด COD ต่อเนื่องตลอดปี รวมกว่า 20 โครงการ


นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 (Q1/68) ว่า ACE สามารถทำรายได้จากการขายและบริการ 1,634.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าที่ทำได้ 1,471.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 226.1 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติในงวดนี้มีการเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าและไตรมาสที่ผ่านมา โดยกำไรขั้นต้นทำได้ 459.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ทำได้ 350.0 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 10.9% จากไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ทำได้ 414.2 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจากกิจกรรมปกติ ไตรมาสนี้ทำได้ 227.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8% จากไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ทำได้ 166.2 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 11.6% จากไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ทำได้ 203.8 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการดำเนินงานของกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีชั่วโมงหยุดเดินเครื่องที่ลดลง และการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) จำนวน 5 โครงการ ที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา


“ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา นอกจากจะได้เห็นถึงพัฒนาการเชิงบวกด้านผลประกอบการและตัวเลขทางการเงินแล้ว ในด้านการขยายกิจการก็มีพัฒนาเชิงบวกเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน โดยมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่กลุ่ม ACE ชนะการประมูล ได้รับการลงนามสัญญาก่อสร้างและบริหารเพิ่มอีกเป็นจำนวน 4 โครงการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ได้แก่ อุบลราชธานี สกลนคร อำนาจเจริญ และลพบุรี ส่งผลให้ปัจจุบัน ACE มีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน รวม 9 โครงการ ขณะที่ผลการดำเนินงานของปี 2568 คาดว่าจะมีการเติบโตจากปี 2567 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในช่วงปลายปี 2567 จำนวน 5 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 71.19 เมกะวัตต์ รวมถึงมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าที่ชนะการประมูลและลงทุนก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะทยอย COD เพิ่มเติมภายในปีนี้ รวม 20 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 126.92 เมกะวัตต์ ส่วนแผนการลงทุนโครงการใหม่นั้น บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงการพิจารณาการลงทุนที่คุ้มค่าเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและเทรนด์โลกเป็นสำคัญ” นายธนะชัย กล่าว 


ปัจจุบันกลุ่ม ACE มีโครงการโรงไฟฟ้ารวม 93 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 765.75 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 34 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 349.21 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 59 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 416.54 เมกะวัตต์


อนึ่ง ACE ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2593 ซึ่งสอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจในการตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” ที่ยึดมั่นมาตลอด อันจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน