• Krungthai COMPASS มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน3 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก อนึ่งยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง
Home CCP งบ Q1รายได้ 620.89 ล. กำไร 3.50% Q2 พัฒนาโซลูชันคอนกรีต
CCP งบ Q1รายได้ 620.89 ล. กำไร 3.50% Q2 พัฒนาโซลูชันคอนกรีต

CCP งบ Q1รายได้ 620.89 ล. กำไร 3.50% Q2 พัฒนาโซลูชันคอนกรีต

CCP เผยผลประกอบการไตรมาส 1/68 รายได้รวม 620.89 ล้านบาท กำไร 38.35 ล้านบาท โต 3.50% ขณะที่ รายได้ฉพาะกิจการ 378.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.53 ล้านบาท โต 5.3% แย้ม Q2/68 สัญญาณดี โครงการเมกะโปรเจกต์เร่งตัว ส่งงานทันตามเวลา หนุนความต้องการคอนกรีตสำเร็จรูป ภาคเอกชนยังเผชิญแรงกดดันสภาวะเศรษฐกิจชะลอ คาดฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ปรับกลยุทธ์พัฒนาโซลูชันคอนกรีตสำเร็จรูป ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภาคก่อสร้าง รับการเปลี่ยนแปลงเมกะเทรนด์ใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้า หนุนการเติบโต

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้รวม 620.89 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 752.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 38.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.50 %

สำหรับ งบการเงินเฉพาะกิจการ บริษัทมีรายได้รวม 378.57 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 442.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.33 %

ทั้งนี้ ผลประกอบการในส่วนของรายได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อหลังจากการส่งมอบงานในบางโครงการแล้ว และอยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้เข้ามาในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดีจากการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่ง พลังงานเชื้อเพลิง อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจจัดการคลังสินค้า Free Zone (เขตปลอดอากร) บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชัน จำกัด (CHARLIE) บริษัทย่อย ซึ่งดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาด

สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/68 มีสัญญาณเป็นบวก เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐยังคงเร่งดำเนินการก่อสร้าง เพื่อส่งมอบงานได้ตามกำหนด ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ภาคเอกชนยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐและเอกชนจากทั่วประเทศเข้ามาอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,850 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นบริหารจัดการต้นทุนในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการปรับกลยุทธ์พัฒนาโซลูชันคอนกรีตสำเร็จรูป โดยให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคก่อสร้าง เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ใหม่ๆ และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว