• Krungthai COMPASS มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน3 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก อนึ่งยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง
Home RT เผยแนวโน้ม Q2/68 ปรับตัวดี เร่งส่งมอบงาน 3 โครงการ
RT เผยแนวโน้ม Q2/68 ปรับตัวดี เร่งส่งมอบงาน 3 โครงการ

RT เผยแนวโน้ม Q2/68 ปรับตัวดี เร่งส่งมอบงาน 3 โครงการ

RT เผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/68 ปรับตัวดีขึ้น เร่งส่งมอบงาน 3 โครงการ ทยอยรับรู้รายได้จาก 23 โครงการต่อเนื่อง เดินหน้าคุมต้นทุน พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน เชื่อรายได้ทั้งปีโตตามเป้า ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1/68 รายได้รวม 700 ล้านบาท

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2568 แนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการส่งมอบงาน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จังหวัดเลย โครงการ Slope Protection ทางหลวงหมายเลข 1150 ตอน ขุนแจ๋-เวียงป่าเป้า ตอน 3 และ โครงการ Slope Protection ทางหลวงหมายเลข 2196 ตอน นางั่ว-ทุ่งสมอ ตอน 2 รวมถึงยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน 23 โครงการ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามแผนต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนของแต่ละโครงการอย่างรัดกุม พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถส่งมอบงานได้ ตรงตามกำหนดเวลา และรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าผลประกอบการปี 2568 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวม 700 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 977 ล้านบาท จำนวน 277 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 102 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานบางโครงการ ทำให้ต้องขยายระยะเวลาดำเนินการเพิ่มเติม ส่งผลให้ต้นทุนโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเพียงในไตรมาสนี้เท่านั้น และเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เร่งดำเนินการแก้ไข และวางแผนบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อลดผลกระทบในไตรมาสถัดไป โดยยังคงมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการในปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้น จากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากโครงการที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน