• Krungthai COMPASS มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน3 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก อนึ่งยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง
Home SPCG ไตรมาส 1/68 กำไร 139.5 ล. เพิ่มขึ้น 9.19% ย้ำการเงินแข็งแกร่ง
SPCG ไตรมาส 1/68 กำไร 139.5 ล. เพิ่มขึ้น 9.19% ย้ำการเงินแข็งแกร่ง

SPCG ไตรมาส 1/68 กำไร 139.5 ล. เพิ่มขึ้น 9.19% ย้ำการเงินแข็งแกร่ง

บมจ.เอสพีซีจี หรือ SPCG ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ทำรายได้จากการขายและการให้บริการ 534.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 139.5 ล้านบาท จากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 102.1 ล้านหน่วย สะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงาน พร้อมมุ่งเน้นศักยภาพการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงมองโอกาสขยายการลงทุนใหม่ เพื่อสร้างผลการดำเนินงานและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น แม้สิ้นสุดระยะเวลาได้รับ Adder มั่นใจฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีหนี้สินต่อทุนต่ำ

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2568 จากธุรกิจโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟ สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์ฟาร์ม ได้ทั้งสิ้น 102.1 ล้านหน่วย ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 534.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 139.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2567 ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 455.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 127.8 ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าและสามารถสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเทรนด์การประหยัดพลังงานส่งผลให้มีความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การดำเนินธุรกิจอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินโครงการโซลาร์ฟาร์มให้สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมองโอกาสขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ดี รวมถึงสามารถสร้างผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.02 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568