• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home ถอดสูตรสำเร็จปั้นอาคารสำนักงานโมเดิร์นเอาชนะตลาดแข่งขันสูง
ถอดสูตรสำเร็จปั้นอาคารสำนักงานโมเดิร์นเอาชนะตลาดแข่งขันสูง

ถอดสูตรสำเร็จปั้นอาคารสำนักงานโมเดิร์นเอาชนะตลาดแข่งขันสูง

เผย 3 กุญแจสำคัญ เทคโนโลยี-นวัตกรรม-บรรยากาศออฟฟิศ พร้อมเคล็ดลับธุรกิจที่มองข้ามไม่ได้

 

กรุงเทพฯ 19 กันยายน 2566: REDPAPER รายงานข้อมูลและเทรนด์ด้านอสังหาริมทรัพย์ สนับสนุนโดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท นัมเบอร์ส 10 รีเสิร์ช จำกัด เผย 3 กุญแจสำคัญปลดล็อคธุรกิจอาคารสำนักงานให้ประสบความสำเร็จในยุคที่ตลาดอาคารสำนักงานมีการแข่งขันสูงจากซัพพลายพื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าพื้นที่สำนักงานให้เช่าจะเพิ่มถึง 11.5 ล้านตร.ม. พร้อมแนะเคล็ดลับธุรกิจที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ต้องใส่ใจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมรักษา-ดึงดูดผู้เช่าคุณภาพไว้ได้

 

 

รายงาน REDPAPER ฉบับที่ 5 เรื่อง ไขรหัสความสำเร็จธุรกิจอาคารสำนักงาน: 3 กุญแจดอกใหม่สู่ Tomorrow’s Office ดึงดูดผู้เช่าเต็ม ผูกใจผู้ใช้บริการ ศึกษาปัจจัยที่ผู้ประกอบการและพนักงานให้ความสำคัญสำหรับ “ออฟฟิศแห่งอนาคต” ที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวก ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้กับทั้งองค์กรและพนักงาน โดยจากการสำรวจผู้ประกอบการและชาวออฟฟิศในย่าน CBD ของกรุงเทพฯ[1] พบว่า 3 ปัจจัยสำคัญอันดับต้นที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม คือ อาคารสำนักงานต้องตอบโจทย์ด้านดิจิทัล นวัตกรรม และ บรรยากาศสถานที่ทำงาน

 

กุญแจ #1  Digital Connectivity: ทุกการเชื่อมต่อต้องลื่นไหล ไม่มีสะดุด

 

กว่า 95% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อด้านดิจิทัลที่ต้องมีความราบรื่น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่องค์กรจำนวนมากกลับสู่การเข้าออฟฟิศเต็มรูปแบบ และต้องพึ่งพาการทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ หลายบริษัทยังได้นำ AI, Big Data, IoT ฯลฯ มาผนวกกับการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและสัญญาณโทรศัพท์กระจายครอบคลุมทั่วทุกจุดเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานที่มองข้ามไม่ได้ โดยหลายองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านดิจิทัล มักเฟ้นหาอาคารสำนักงานที่ผ่านการรับรองจาก WiredScore ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านดิจิทัลระดับสากลที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง สำหรับการการันตีประสิทธิภาพด้านการเชื่อมต่อดิจิทัลของอาคารสำนักงานทั่วโลก

  

 

กุญแจ #2 Service-driven Innovation: เน้นความสะดวกตรงใจ ลดขั้นตอนยุ่งยาก เสริมความคล่องตัว

 

79% ของพนักงานออฟฟิศสนับสนุนให้อาคารสำนักงานมีนวัตกรรมใหม่ ๆ อำนวยความสะดวกผู้ใช้อาคารและบุคคลภายนอกมากขึ้น อาทิ แอปพลิเคชันสำหรับงานบริการ และการรองรับระบบ touchless ต่างๆ รวมถึงนวัตกรรมด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบ Smart Office เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการพลังงานหมุนเวียน และลดการใช้พลังงานภายในอาคาร ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายขององค์กรต่าง ๆ ด้านการลดคาร์บอนฟุตปรินท์อีกด้วย

 

 

กุญแจ #3 Productive Environment: บรรยากาศที่ทำงานดี อัพเกรดคุณภาพชีวิต สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวออฟฟิศ

 

ช่วง Work from Home ที่ยาวนานเป็นจุดพลิกสำคัญของรูปแบบการทำงาน หลังกลับเข้าออฟฟิศ พนักงานให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้น สะท้อนได้จากผลสำรวจที่พบว่า 73% ของพนักงานต้องการออฟฟิศที่มีบรรยากาศดี ส่งเสริมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริม Well-being หรือสุขภาวะการทำงานที่ดี

 

 

นอกจากนี้ REDPAPER ได้ถอดบทเรียนของอาคารสำนักงานเกรดเอที่ประสบความสำเร็จ โดยแนะนำให้ผู้พัฒนาอาคารสำนักงานจับกระแส 5 เทรนด์ด้านการบริหารจัดการอาคารดังต่อไปนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการแก่ผู้เช่าและผู้ใช้บริการ พร้อมสร้างการเติบโตให้ธุรกิจฝ่ายุคที่ตลาดมีความท้าทายสูง 

 

1) ความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ระบบเตือนภัย อุปกรณ์เซฟตี้คุณภาพ การฝึกซ้อมรับมือที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการประยุกต์ระบบอัจฉริยะต่าง ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพดูแลชีวิต-ทรัพย์สิน เป็นหนึ่งในบริการขั้นพื้นฐานที่ต้องรักษาคุณภาพไว้ในระดับสูง

 

2) ยกระดับการให้บริการด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัยผ่าน Mobile First ช่วยเสริมความสามารถในการให้บริการได้รวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างจุดแข็งใหม่ ๆ ที่สอดรับความต้องการกลุ่มลูกค้าของตน

 

3) ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม ยกระดับมาตรฐานอาคารไทยเทียบเท่าระดับสากล เพื่อมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก พร้อมรองรับดีมานด์ของบริษัทชั้นนำที่ต้องการเลือกใช้อาคารที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED[2] ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากล การันตีด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

4) ขั้นตอนตรวจสอบ-ประเมินด้านสิ่งแวดล้อมคือสิ่งพื้นฐาน กระบวนการเก็บข้อมูล วางแผน และวิเคราะห์การใช้พลังงาน หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่สิ่งที่สามารถเลือกทำได้อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการบรรลุเป้าหมายของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับดีมานด์ขององค์กรชั้นนำทั่วโลก

 

5) CRM เรื่องเก่าที่ยังคงความสดใหม่ เพราะการรักษาความสัมพันธ์กับผู้เช่าอย่างใกล้ชิดจะเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เห็นพฤติกรรมลูกค้า การเปลี่ยนแปลง ดีมานด์ใหม่ ๆ รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนให้ธุรกิจอาคารสำนักงานสามารถครองใจลูกค้าได้ด้วยบริการที่ทันท่วงที หรือการต่อยอดบริการใหม่ ๆ

 

ทั้งนี้ การเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอาคารสำนักงานให้เติบโตในตลาดของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความท้าทาย อาจสรุปได้ว่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องยกระดับการให้บริการที่หลากหลายกว่าเดิม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าและผู้ใช้อาคารสำนักงานทุกกลุ่ม พร้อมช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับการใช้ชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการต่อยอดบริการในธุรกิจเป็นสำคัญ หรือรูปแบบ As a Service ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เช่า  เป็นหนึ่งในแนวทางการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ รวมถึงเป็นกลยุทธ์ในการรักษาฐานผู้เช่าเดิม และต่อยอดลูกค้ารายใหม่