• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home ทิสโก้-เฮช ฟรี-ชาวบ้านนาฮ่องใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปลูกป่า
ทิสโก้-เฮช ฟรี-ชาวบ้านนาฮ่องใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปลูกป่า

ทิสโก้-เฮช ฟรี-ชาวบ้านนาฮ่องใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปลูกป่า

25 ก.ย. 67 - กลุ่มธนาคารทิสโก้ นำโดย นายกิตติพงศ์ เหลืองอิงคะสุต ผู้อำนวยการอาวุโส รองหัวหน้ากิจการสาขา 2 พร้อมพนักจิตอาสาจากทิสโก้ และสมหวัง เงินสั่งได้ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับ บริษัท เฮช ฟรี จำกัด และเกษตรกรในชุมชนบ้านนาฮ่องใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ปลูกป่าในโครงการต้นแบบ “การปลูกป่าเพื่อสร้างอาชีพไร้ควันที่ยั่งยืน” เพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ทดแทนพื้นที่เสื่อมโทรม และสร้างรายได้จากผลผลิตให้เกษตรกรได้มีรายได้ที่มั่นคง โดยมีอาจารย์ปองทิพย์ เที่ยงบูรณธรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เฮช ฟรี จำกัด และนายสุทัศน์ ยงศักดิ์วัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาฮ่องใต้ (เจ้าของพื้นที่) นำทีมลงพื้นที่

สำหรับโครงการต้นแบบ “การปลูกป่าเพื่อสร้างอาชีพไร้ควันที่ยั่งยืน” ของ บริษัท เฮช ฟรี จำกัด หรือ วิสาหกิจเพื่อสังคมไร้ควัน Haze Free Social Enterprise เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกป่าบนพื้นที่ทำกิน ด้วยการปรับเปลี่ยนการใช้ที่ดินจากเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นวนเกษตร หรือการทำไร่นาป่าผสม เพื่อลดปัญหาฝุ่นควันในเขตภาคเหนือ ลดการเผาป่า ลดการใช้สารเคมี และส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรได้มีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืน


ในปี 2567 กลุ่มธนาคารทิสโก้ ลงนามพื้นที่ปลูกภายใต้โครงการนี้ บนพื้นที่ปลูกของ นายสุทัศน์ ยงศักดิ์วัฒน์ จำนวน 5 ไร่ เป็นพันธุ์ต้นไม้ 3 ชนิด ได้แก่ ต้นอโวคาโด้ ต้นมะขามป้อม และต้นหว้า พร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณในการติดตามประเมินผลดำเนินงานเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยสามารถขอการรับรองการกักเก็บคาร์บอน จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกตลอดระยะเวลาให้การสนับสนุน