• ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2566 ลงจาก 3.2% เป็น 2.8% และปี 2567 จาก 3.6% เป็น 3.2% ตามลำดับ หลังแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ต่างประเทศมีความเปราะบางขึ้น โดยเฉพาะโมเมนตัมส่งออกที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอ่อนแอ เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่แผ่วลงกว่าคาด *** ด้าน SCB EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 เหลือ 3.1% (เดิม 3.9%) จากข้อมูลจริงไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าคาดมากและการส่งออกสินค้าที่หดตัวแรงต่อเนื่อง แต่ยังมีแรงหนุนหลักจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยฟื้นตัวดีตามประมาณการ 30 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางที่เร่งตัวและเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ ส่งผลให้ภาคบริการฟื้นตัวต่อเนื่องช่วยลดความเปราะบางในตลาดแรงงาน สำหรับมุมมองปี 2567 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเร่งขึ้นที่ 3.5% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องเป็น 37.7 ล้านคน
Home กรมบัญชีกลาง อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2566 จ่ายอะไรบ้าง
กรมบัญชีกลาง อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2566 จ่ายอะไรบ้าง

กรมบัญชีกลาง อัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกันยายน 2566 จ่ายอะไรบ้าง

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนกันยายน 2566 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 กันยายน 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
**สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 กรกฎาคม - 26 สิงหาคม 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 กันยายน 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 5 เดือน (ของเดือนเมษายน-สิงหาคม 2566) รวมจำนวน 1,500 บาท
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2566)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM)

วันที่ 12 - 14 กันยายน 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือมอบความยินยอมไว้แล้ว)
- เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2566) โดยจ่ายตามรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 20 กันยายน 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

 


**สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน
ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 กรกฎาคม-26 สิงหาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์
และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเมษายน-สิงหาคม 66) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท