• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ สถานการณ์เงินบาทเริ่มพลิกผันกลับมาแข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 จนทะลุแนว 34.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือนที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในเดือนสิงหาคม 2567 หลังประธานเฟดส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย *** ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าและสถานการณ์ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลางดันให้ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกทางหนึ่ง *** เตือนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ส่งออก-ผู้นำเข้า ที่มีรายรับ-รายจ่ายในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
Home กรุงศรี รุกพอร์ตสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในอินโดฯผ่านจุดแข็งเครือข่าย-พันธมิตร 
กรุงศรี รุกพอร์ตสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในอินโดฯผ่านจุดแข็งเครือข่าย-พันธมิตร 

กรุงศรี รุกพอร์ตสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในอินโดฯผ่านจุดแข็งเครือข่าย-พันธมิตร 

กรุงศรี มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซีย ผ่านจุดแข็งด้านเครือข่ายและพันธมิตรทั่วประเทศ
 

กรุงเทพฯ (10 พฤศจิกายน 2566) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วางเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อและฐานลูกค้ารายย่อยในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น ผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ PT. Home Credit Indonesia ซึ่งเป็นธุรกิจต่างประเทศรายล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในพอร์ตกรุงศรี และยังเป็นผู้เล่นรายสำคัญในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซีย พร้อมเดินหน้าขยายขีดความสามารถในการให้บริการทางการเงินผ่านจุดแข็งความเป็นผู้นำสินเชื่อ ณ จุดขายที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินของชาวอินโดนีเซียผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
 
นายวันชัยระบิน จิตวัฒนาธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานธุรกิจระดับภูมิภาค ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Home Credit Indonesia ดำเนินธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2556 สามารถสร้างการรับรู้และเป็นที่จดจำของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 3,015 พันล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือคิดเป็นมูลค่า 7.2 พันล้านบาท และมียอดสินเชื่อใหม่เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อ ณ จุดขาย หรือ POS Loan ด้วยเครือข่ายการให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศอินโดนีเซียกว่า 21,000 จุด รวมถึงการมีเครือข่ายพันธมิตรร้านค้าปลีกและแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกกว่า 11,400 ราย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่จะสามารถต่อยอดการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อขยายฐานลูกค้า รวมถึงสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตสินเชื่ออีกด้วย”
 

 


Home Credit Indonesia มีฐานลูกค้าทั้งหมดกว่า 6.1 ล้านราย ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้ด้วยอัตราการรับรู้ในแบรนด์สูงถึง 95% (จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซียปี 2566) ปัจจุบันนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ได้แก่ สินเชื่อ ณ จุดขาย (POS Loan) สินเชื่อเงินสด (Cash Loan) บัตรเครดิต (Credit Card) เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) และผลิตภัณฑ์ประกัน ฯลฯ โดยมีส่วนแบ่งพอร์ตสินเชื่อ ณ จุดขาย สูงถึง 55% ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
 
“ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มการขยายตัวของการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เรามองเห็นโอกาสในการต่อยอดความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายของ Home Credit Indonesia ผ่านช่องทางดิจิทัล โดยอาศัยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำในอินโดนีเซียอย่าง Tokopedia, Bukalapak และ Blibli ผนวกกับความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้บริโภคของกรุงศรี ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องการตลาด ช่องทางการขาย และการบริหารความเสี่ยงเพื่อช่วยผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของชาวอินโดนีเซียได้ดียิ่งขึ้น โดยกรุงศรียังคงดำเนินตามมาตรการพิจารณาปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ และมีความเป็นธรรม เพื่อคงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อโดยรวมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนาตลาดสินเชื่อเพื่อส่งเสริมความสำเร็จของชาวอินโดนีเซียอย่างยั่งยืนต่อไป” นายวันชัยระบิน กล่าวปิดท้าย
 
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจและเครือข่ายของกรุงศรีในอาเซียน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/asean