• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ ได้รับอนุญาตรายแรกของไทย ขึ้นทะเบียนผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดของจีน
กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ ได้รับอนุญาตรายแรกของไทย ขึ้นทะเบียนผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดของจีน

กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ ได้รับอนุญาตรายแรกของไทย ขึ้นทะเบียนผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดของจีน

บริษัท KASIKORN VISION (SHANGHAI) PRIVATE FUND MANAGEMENT CO., LTD. (กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้) บริษัทในกลุ่มธุรกิจธธนาคารกสิกรไทย รุกตลาดการลงทุนในหุ้นนอกตลาด หรือ Private Equity จีน ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทุน Private Equity จากสมาคมบริหารสินทรัพย์แห่งประเทศจีน (Asset Management Association of China: AMAC) รวมถึงได้รับโควตาการลงทุน Qualified Foreign Limited Partner (QFLP) จำนวน 1,500 ล้านหยวน ซึ่งเป็นช่องทางให้ผู้ลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนอกตลาดของจีน โดยตลาด Private Equity จีนนั้นใหญ่เป็นอันดับสองของโลก กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจธนาคารไทยรายแรกที่ได้รับอนุญาตและมีโควตาดังกล่าว จากความสำเร็จนี้เสมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนในจีนให้แก่นักลงทุนจากไทยและภูมิภาค AEC+3

 


นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ จีนได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์มุ่งสู่การพึ่งพาตนเองมากขึ้น เน้นการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจผ่านการเติบโตอย่างมีคุณภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นของตนเอง อย่างเช่นปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ (Robotic) การผลิตแบบล้ำสมัย (Advanced Manufacturing) เทคโนโลยีสะอาด (Clean Tech) และในขณะเดียวกัน จีนยังคงเดินหน้าขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจผ่านเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเหล่านั้นในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา จากตัวอย่างของการย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มายังประเทศไทย การขยายธุรกิจของบริษัท e-commerce จีนในตลาดไทย รวมถึงสินค้าอุปโภคอิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ ที่จีนยังมีความแข็งแกร่งด้านห่วงโซ่อุปทานเหนือนานาประเทศ ซึ่งการลงทุนในหุ้นนอกตลาดนี้จะเข้าลงทุนสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีดังกล่าว

 


ในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ธนาคารกสิกรไทย ได้ดำเนินยุทธศาสตร์เพื่อการต่อยอดธุรกิจ ควบคู่การเสริมสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ครบวงจรในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการเชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในประเทศจีน โดยเป็นตลาดที่มีความหลากหลายและมีศักยภาพสูง ล่าสุด บริษัท KASIKORN VISION (SHANGHAI) PRIVATE FUND MANAGEMENT CO., LTD. (กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้) บริษัทในกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทยได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทุน Private Equity จากสมาคมบริหารสินทรัพย์แห่งประเทศจีน (Asset Management Association of China: AMAC) ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนในจีนให้แก่นักลงทุนจากไทยและภูมิภาค AEC+3

 

การเข้าสู่ตลาด Private Equity ในจีนของบริษัทในกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทยนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายและมีศักยภาพสูงจากตลาดจีนให้กับนักลงทุนเท่านั้น แต่ นักลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative asset class) ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุนได้อีกด้วย ทั้งนี้ กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ มีแผนที่จะออกกองทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในประเทศจีนที่สอดคล้องกับนโยบายมหภาคและกลยุทธ์ของประเทศจีน ผ่านตลาดรอง (Secondary private market) หรือการร่วมลงทุน (Co-investments)


นายภัทรพงศ์ กล่าวตอนท้ายว่า การขยายธุรกิจสู่ตลาด Private Equity ครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายธุรกิจของธนาคารในประเทศจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของสถาบันการเงินไทย รวมถึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ความน่าสนใจของตลาดทุนจีนในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก