เดือนธันวาคม 2566 ผลิตรถยนต์ 133,621 คัน ลดลงร้อยละ 15.75 ขาย 68,326 คัน ลดลงร้อยละ 17.48 ส่งออก 90,305 คัน ลดลงร้อยละ 19.09 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 8,753 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 239.92 ปี 2566 ส่งออก 1,117,539 คัน สูงสุดในรอบ 5 ปี
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนธันวาคม 2566 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2566 มีทั้งสิ้น 133,621 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 15.75 เพราะผลิตขายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 29.94 โดยเฉพาะรถกระบะที่ผลิตลดลงถึงร้อยละ 41.30 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะเพราะหนี้ครัวเรือนสูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP และอีกส่วนหนึ่งมาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขายในประเทศ โดยมียอดจดทะเบียนถึง 75,690 คัน ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งลดลงร้อยละ 16.24 แต่การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกปี 2566 กลับเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.44 ตามยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.30 และสูงกว่าส่งออกปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด 19 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 18.19 เนื่องจากวันทำงานน้อยกว่าจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,841,663 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 2.22
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ 50,099 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 7.94 โดยแบ่งเป็น
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มีจำนวน 648,803 คัน เท่ากับร้อยละ 35.23 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 7.98 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ 2 คัน ช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ 118 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 145.83
รถยนต์บรรทุก เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 83,520 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 19.83 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,192,742 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 7.01
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 80,489 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 21.37 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,155,267 คัน เท่ากับร้อยละ 62.73 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 7.03 โดยแบ่งเป็น
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ 3,031 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 66.36 รวมเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ 37,475 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 6.24
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ 82,592 คัน เท่ากับร้อยละ 61.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 3.70 ส่วนเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 1,156,035 คัน เท่ากับร้อยละ 62.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.44
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,155 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 0.47 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 333,195 คัน เท่ากับร้อยละ 51.36 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 15.82
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 55,437 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 5.62 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 822,840 คัน เท่ากับร้อยละ 67.18 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 9.76 โดยแบ่งเป็น
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนธันวาคม 2566 ผลิตได้ 51,029 คัน เท่ากับร้อยละ 38.19 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 29.94 และเดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ 685,628 คัน เท่ากับร้อยละ 37.23 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 18.98
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 22,944 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 16.24 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 315,608 คัน เท่ากับร้อยละ 48.64 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.78
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 25,052 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 42.57 และตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 332,427 คัน เท่ากับร้อยละ 28.77 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 32.57 ซึ่งแบ่งเป็น
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 201,128 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 8.73 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 164,528 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 8.84 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 36,600 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 8.27
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,472,872 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 5.86 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 2,120,738 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 5.20 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 352,134 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 42.35
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,326 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 10.88 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 17.48 ลดลงเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง และเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากผลผลิตอุตสาหกรรมที่ลดลงตามการส่งออกที่ลดลง โรงงานจึงลดกะทำงานและลดทำงานล่วงเวลา คนงานขาดรายได้ ประกอบกับค่าครองชีพและอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เหลือเงินไม่เพียงพอในการใช้จ่ายอย่างอื่นได้ นอกจากนี้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็ยังต้องรองบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ล่าช้าออกไปอีกหลายเดือน แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 39,500 คัน เท่ากับร้อยละ 57.81 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.95
รถกระบะมีจำนวน 19,543 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 44.94 รถ PPV มีจำนวน 4,480 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.79 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 3,312 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 1.88 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,491 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 4.55
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 132,377 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 7.51 และลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 8.35 โดยแบ่งเป็น
ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 775,780 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.67 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 406,995 คันเท่ากับร้อยละ 52.46 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 16.94
รถกระบะมีจำนวน 264,738 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 31.82 รถ PPV มีจำนวน 60,286 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.45 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 27,682 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 11.36 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 16,079 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 5.51
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,856,814 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 3.62 โดยแบ่งเป็น
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนธันวาคม 2566 ส่งออกได้ 90,305 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 9.34 และลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 19.09 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 87,390 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 21.26 ส่งออกรถยนต์ HEV 2,915 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 366.40 มูลค่าการส่งออก 62,499.78 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 12.41
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 84,334.69 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 10.08
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,117,539 คัน สูงกว่ายอดส่งออกก่อนเกิดการระบาดของโรค โควิด 19 ปี 2562 และสูงสุดในรอบ 5 ปี เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.73 เพิ่มขึ้นเพราะประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ยังมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในทุกตลาด ยกเว้นตลาดแอฟริกาที่ลดลง แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 1,102,694 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.30 ส่งออกรถยนต์ HEV 14,845 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 56.02 มูลค่าการส่งออก 719,991.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 15.25 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 972,790.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 8.13
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนส่งออก 76,573 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 0.56 และลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 16.73 โดยมีมูลค่า 5,764.14 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 18.97
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนธันวาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,069.83 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 19.54
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 822,608 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 20.51 มีมูลค่า 68,588.60 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 6.97
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 73,410.37 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ร้อยละ 7.14
เดือนธันวาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 90,404.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ -10.78
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,046,201.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 6.89
ปี พ.ศ.2567 เป้าผลิตรถยนต์ 1,900,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17
เป้าผลิตรถจักรยานยนต์ 2,120,000 คัน ลดลงร้อยละ 0.03
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ.2567 โดยแยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ดังนี้
รถยนต์
ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี พ.ศ.2567 ประมาณ 1,900,000 คัน มากกว่าปี พ.ศ.2566 ซึ่งมีจำนวน 1,841,663 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,150,000 คัน เท่ากับร้อยละ 65 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 750,000 คัน เท่ากับร้อยละ 35 ของยอดการผลิตทั้งหมด
ปัจจัยบวก ดังต่อไปนี้
ปัจจัยลบ ดังต่อไปนี้
ปัจจัยบวก ดังต่อไปนี้
ปัจจัยลบ ดังต่อไปนี้
รถจักรยานยนต์
ประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี พ.ศ.2567 ประมาณ 2,120,000 คัน น้อยกว่าปี พ.ศ.2566 ซึ่งมีจำนวน 738 คัน ลดลงร้อยละ 0.03 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 420,000 คัน เท่ากับร้อยละ 19.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,700,000 คัน เท่ากับร้อยละ 80.19 ของยอดการผลิตทั้งหมด
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนธันวาคม 2566
เดือนธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,187 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 317.43 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 9,138 คัน
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 90 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 4 คัน
-รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 42 คัน
-รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 1 คัน
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,837 คัน
-รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 10 คัน
เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 100,214 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 381.77 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 76,144 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 ร้อยละ 689.55%
-รถยนต์นั่งจำนวน 75,715 คัน
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 395 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 12 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 22 คัน
-รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 414 คัน
-รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 18 คัน
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 21,864 คัน
-รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 63 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนธันวาคม 2566
เดือนธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,509 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 34.43 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 5,462 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 2 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 5 คัน
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 40 คัน
เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 85,069 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 32.85 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 84,366 คัน
-รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 16 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 24 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 70 คัน
-รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 593 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนธันวาคม 2566
เดือนธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 535 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 21.21 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 535 คัน
เดือนมกราคม - ธันวาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 11,703 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 3.28 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งจำนวน 11,692 คัน
-รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 6 คัน
-รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 5 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 131,849 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 310.99 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 343,604 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.25 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 53,979 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 27.26 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้