• Krungthai COMPASS ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังไม่สิ้นสุด แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะมีแนวโน้มลดลง แต่ กนง. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 2.0% ในปี 2566 และ 2567 *** มองว่า กนง. จะให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมากขึ้นเนื่องจากสะท้อนสัดส่วนราคาที่ผู้บริโภคใช้จ่ายถึง 67.1% ของตะกร้าเงินเฟ้อ นอกจากนี้ กนง. กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อมีความเสี่ยงด้านสูงจากแรงหนุนด้านอุปสงค์ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี และการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันด้านอุปทาน ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะข้างหน้า อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านสูงเช่นกัน จึงเป็นไปได้ว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างเรียบร้อย *** กนง. มีโอกาสปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 2.25% ต่อปี ในช่วงปลายปี 2566
Home เจนเนอราลี่ กรุ๊ป  แข็งแกร่ง ปี 2022 กวาดรายได้กว่า 2.49 แสนล.
เจนเนอราลี่ กรุ๊ป  แข็งแกร่ง ปี 2022 กวาดรายได้กว่า 2.49 แสนล.

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป  แข็งแกร่ง ปี 2022 กวาดรายได้กว่า 2.49 แสนล.

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ประกาศความสำเร็จปี 2022 กวาดรายได้รวมกว่า 2.49 แสนล้านบาท ชี้รายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยทรัพย์สิน พร้อมเผยแผนการดำเนินธุรกิจ เดินหน้าปรับสมดุลพอร์ตประกันชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการทำกำไรและการจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ รับมือความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจโลก และวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม มุ่งให้ประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ ด้านเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ชู 3 กลยุทธ์ ลุยตลาดเต็มสูบ ตั้งเป้ารายได้กลุ่มประกันชีวิตโต 21% และกลุ่มประกันภัยโต 11%
 


นาย อาร์ช คอลมิ (Mr. Arsh Kaumi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยในงานประชุมพนักงานประจำปี 2023 (Town Hall) ครั้งแรกภายหลังจากการเข้ารับตำแหน่ง ว่า “ผลประกอบการของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ในปี 2022 ที่ผ่านถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth ที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์มุ่งสู่การผู้นำระดับโลกด้านการประกันภัยและการบริหารจัดการสินทรัพย์ ประกอบกับภาพรวมของเศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 


โดยในปี 2022 เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีรายได้จากผลการดำเนินงานรวม (Operating Result) อยู่ที่ 2.49 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11.2%) ผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.12 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.3%) โดยรายได้หลักมาจากประกันชีวิตและการเติบโตของธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) คิดเป็นอัตราส่วนรวมอยู่ที่ 93.2% (Combined Ratio +2.4 p.p.) และมีผลกำไรขั้นต้นจากธุรกิจใหม่อยู่ที่ 5.35% (New Business Margin +0.86 p.p.) เบี้ยประกันภัยรับรวม (Gross Written Premium) อยู่ที่ 31.3 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น1.5%) อีกทั้งยังมีการเติบโตของธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) อยู่ที่ 9.8% ซึ่งสัดส่วนที่มากที่สุดมาจากประกันวินาศภัย (Non-Motor) ส่วนกระแสเงินลงทุนไหลเข้าธุรกิจประกันชีวิต (Life Net Inflows) อยู่ที่ 3.34 แสนล้านบาท นอกจากนี้สถานะทางเงินทุนยังคงความแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุน (Solvency Ratio) ที่ 221% และเงินปันผลที่เสนอต่อหุ้นอยู่ที่ 1.16 ยูโร หรือประมาณ 44.52 บาท (เพิ่มขึ้น 8.4%) ภาพรวมผลประกอบการทั้งหมดจึงเป็นการยืนยันว่า เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง ดูแลกลุ่มลูกค้าและผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี

 



นาย อาร์ช กล่าวต่อว่า “สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2023 นับว่าเป็นปีที่ท้าทายของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลกระทบในภาคการเงิน หรือภาวะเงินเฟ้อก็ดี แต่ก็แสดงให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญในการทำประกันภัย เพื่อลดภาระความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น โดยเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ได้เตรียมวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม พร้อมใช้กลยุทธ์การปรับความสมดุลในพอร์ตของประกันชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและลดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ด้วยการแนะนำโซลูชันที่หลากหลายมาปรับใช้ในบริการ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน และมุ่งเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ  ซึ่งแผนกลยุทธ์ทั้งหมดจะยังคงเดินหน้าบนพื้นฐาน Lifetime Partner 24: Driving Growth และกำหนดบทบาทความรับผิดชอบไว้ 4 บทบาท ได้แก่ นักลงทุน พันธมิตร ลูกค้า และพนักงาน

สำหรับ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ยังได้เพิ่มกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็น 3 แนวทางหลัก คือ การพัฒนาช่องทางการขาย ด้วยการสร้างพันธมิตรในกลุ่มธนาคาร และสถาบันการเงิน มุ่งสร้างธุรกิจตัวแทนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขยายฐานลูกค้าของช่องทางดิจิทัล และเดินหน้าขึ้นเป็นผู้นำในส่วนของประกันกลุ่มเพื่อการเติบโต อย่างยั่งยืน ยกระดับการบริการด้วยแนวคิด Customer F.I.R.S.T. ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าไปจนถึงการมอบบริการที่เพิ่มประสบการณ์ 'WOW' หรือความประทับใจที่เหนือกว่าความคาดหวัง และแนวทางสุดท้าย การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ด้วยการส่งเสริมทักษะ เชิงกลยุทธ์ให้แก่บุคลากร พร้อมจัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการเป็น Lifetime’s partner รวมถึงการสนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์กร ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเติบโตข้ามสายงานให้แก่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทั้งโอกาสในการทำงานในระดับโลก พร้อมกันนี้ ในส่วนของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปี 2023 ในกลุ่มประกันชีวิต 2,130 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 21% และในกลุ่มประกันวินาศภัย 1,845 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 11%”