• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 2.60 บ. เปิดใจองซื้อ 12-14 ก.พ.
เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 2.60 บ. เปิดใจองซื้อ 12-14 ก.พ.

เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 2.60 บ. เปิดใจองซื้อ 12-14 ก.พ.

เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 2.60 บาท/หุ้น เปิดให้นักลงทุนจองซื้อ 12-14 ก.พ. พร้อมลั่นระฆังเทรดบนกระดาน SET

เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ หรือ NL เตรียมลงสนามเทรดใน SET โชว์ศักยภาพหนึ่งในผู้นำธุรกิจก่อสร้างและงานติดตั้งระบบวิศวกรรมครบวงจร เน้นงานกลุ่มโรงพยาบาลที่มีความซับซ้อนสูงและอัตรากำไรที่โดดเด่น ประกาศเคาะราคาไอพีโอ 2.60 บาท/หุ้น เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ นี้ หลังโรดโชว์นำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน ทั้ง 3 จังหวัด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, จ.เชียงใหม่ และ กรุงเทพฯ ผลตอบรับเยี่ยม

นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL เปิดเผยว่า NL พร้อมลั่นระฆังเทรดบนกระดาน SET กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) หมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) โดยมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน นำไปใช้ในการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้าง และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2567 เสริมแกร่งให้บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดรับกับทิศทางของภาคอสังหาริมทรัพย์ และเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนใน 3 จังหวัด หัวเมืองสำคัญ ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ ตอกย้ำการเป็นผู้ประกอบการงานก่อสร้างมืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างกลุ่มโรงพยาบาลที่มีความซับซ้อนสูง อีกทั้งไม่มีภาระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจ่าย และมีกระแสเงินสดแข็งแรง โดยได้รับผลการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม

 


ด้าน นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ  บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ หรือ NL ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นไม่เกิน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ล่าสุดได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งมีผลบังคับใช้แล้ว จึงกำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.60 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไร จึงมั่นใจว่า NL จะเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เตรียมเปิดจองซื้อในวันที่ 12 - 14 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่าน 3 บริษัทหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน), และ บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวปิดท้ายถึงความน่าสนใจของ NL ว่า บมจ.เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ มีจุดเด่นด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของงานรับเหมาก่อสร้าง ที่สั่งสมมามากกว่า 40 ปี ส่งให้บริษัทฯ มีผลงานการให้บริการงานก่อสร้างหลากหลายประเภท ซึ่งบางประเภทอาคารหรือบางรูปแบบอาคารต้องอาศัยเทคนิคการก่อสร้าง และมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างอาคารที่มีความซับซ้อน เช่น สถานพยาบาล ซึ่งสอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์ ส่งให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างโดดเด่น และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐประเภทอื่น และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีเงินสดสภาพคล่อง ไม่มีภาระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจ่ายอีกด้วย