• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home แกรนด์ แอสเสทฯ เตรียมเงิน 3,500 ล. พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ 8 เม.ย.นี้
แกรนด์ แอสเสทฯ เตรียมเงิน 3,500 ล. พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ 8 เม.ย.นี้

แกรนด์ แอสเสทฯ เตรียมเงิน 3,500 ล. พร้อมชำระคืนหุ้นกู้ 8 เม.ย.นี้

แกรนด์ แอสเสทฯ เตรียมพร้อมชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 8 เมษายนนี้ จำนวน 3,500 ล้านบาท ตั้งเป้าชำระหนี้หุ้นกู้ที่เหลืออยู่ทั้งหมด จากการขายธุรกิจโรงแรม 5,000 ล้านบาท ซึ่งการเจรจาคืบหน้าใกล้ได้ข้อสรุป และจากธุรกิจอสังหาฯ อีก 3,000 ล้านบาท ภาพรวมบริษัทจะลดภาระดอกเบี้ยและเพิ่มอัตราการทำกำไร พร้อมมุ่งเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอสังหาฯ ลุยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ชดเชยรายได้จากโรงแรม

นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดในวันที่ 8 เมษายน 2567 มูลค่า 3,500 ล้านบาทให้กับนักลงทุนไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ ยังมีนโยบายการจัดการด้านการเงิน โดยได้วางแนวทางลดภาระหนี้หุ้นกู้ที่เหลือทั้งหมด ลดรายจ่ายดอกเบี้ย และทำให้อัตราการทำกำไรดีขึ้น

“นอกจากการเตรียมเงินเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนหน้าจำนวน 3,500 ล้านบาทไว้แล้ว บริษัทยังมีแผนสร้างกระแสเงินสดเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่เหลืออยู่อีกทั้งหมด รวมจำนวน 4,197 ล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระคืนภายในปีนี้ 1,298.5 ล้านบาท และครบกำหนดชำระคืนในปีหน้าอีก 2,898.4 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม จำนวน 5,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยการเจรจาคืบหน้าอย่างมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ภาพรวมการขายธุรกิจโรงแรม บริษัทจะได้ประโยชน์ทั้งจากการลดลงของดอกเบี้ย และการลดลงของค่าเสื่อมราคา ซึ่งจะทำให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อีกจำนวน 3,000 ล้านบาท จาก 4 โครงการ ได้แก่ ไฮด์ สุขุมวิท 11, ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ, อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง และ ริเวอร์ เบย์ คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา”

บริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเป้าหมายที่จะจัดหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยในส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรม ล่าสุดยังเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โครงการวิลล่าหรูบนเนินเขาติดหาดส่วนตัว “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” พร้อมการเปิดตัว “Bambu Beach Club” ที่ใช้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท ให้เป็นบีชบาร์ริมทะเลระดับไฮเอนด์ ที่หรูหราที่สุดในระยองและเขตอีอีซี ภายใต้ความร่วมมือกับ Amatara WelleisureTM เวลเนสรีสอร์ทและผู้ให้บริการด้านสุขภาพชั้นนำของภูเก็ต ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงกิจกรรมต่างๆ สามารถรองรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ทั้งที่ซื้ออยู่เองและซื้อลงทุน