• Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 68 อยู่ที่ 0.84% คาดเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงระยะข้างหน้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้ายังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศซึ่งมีสัญญาณแผ่ว และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือน ก.พ. 68 ที่ปรับลดลงทั้งหมวดเครื่องจักร ยานพาหนะ และก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมหดตัว 7.7%YoY
Home 'แสนสิริ'โชว์กระแสเงินสด 1.6 หมื่นล.จ่อชำระคืนหุ้นกู้ ต.ค.นี้
'แสนสิริ'โชว์กระแสเงินสด 1.6 หมื่นล.จ่อชำระคืนหุ้นกู้ ต.ค.นี้

'แสนสิริ'โชว์กระแสเงินสด 1.6 หมื่นล.จ่อชำระคืนหุ้นกู้ ต.ค.นี้

แสนสิริ ท็อปฟอร์ม ตอกย้ำเบอร์ 1 อสังหาฯ ไทย กระแสเงินสดปึ๊ก ด้วยสภาพคล่อง กว่า 16,000 ล้านบาท เตรียมชำระคืนหุ้นกู้ เต็มจำนวน 4,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนด 27 ตุลาคมนี้
 
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 ตั้งเป้ายอดโอนรวม 10,000 ล้านบาท ดันผลงานโตทะลุเป้าทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
 
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ประกาศชำระคืนหุ้นกู้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน โดยเปิดเผยว่า “บริษัทได้เตรียมเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อชำระคืนหุ้นกู้แสนสิริ (ครั้งที่ 1/2563)  มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ไว้เรียบร้อยแล้ว การชำระคืนหุ้นกู้ครังนี้ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จจากกลยุทธ์การวางแผนทางการเงิน และการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันบริษัท มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการทำธุรกิจและใช้เป็นเงินหมุนเวียน ด้วยสภาพคล่องกว่า 16,000 ล้านบาท แสดงถึงศักยภาพในการบริหารการเงินของบริษัทที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี  และสร้างความความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในกระแสเงินสดของบริษัทที่มีเพียงพอ แม้จะไม่มีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในครั้งนี้
 


แสนสิริขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้นกู้ของแสนสิริเป็นอย่างดีมาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท การดำเนินงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนการวิเคราะห์ตลาดอย่างเฉียบคม รวดเร็ว พร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ สัมพันธ์กับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก (Global Trends) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 
 
“สำหรับผลงานครึ่งแรกของปี 2566 สามารถสร้างยอดขายได้ 25,000 ล้านบาท เติบโต 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 ตั้งเป้ายอดโอนรวม 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอด backlog แล้วกว่า 9,300 ล้านบาท จึงมั่นใจได้ว่าการดำเนินงานในปีนี้จะประสบความสำเร็จตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ด้วยเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High ที่เพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายวิชาญ กล่าว