วันที่ 22 สิงหาคม 2567 บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (TNR PLC) และ PLBY Group, Inc. เจ้าของเครื่องหมายการค้าแบรนด์ PLAYBOY ได้ร่วมเฉลิมฉลองภายหลังการร่วมลงนามสัญญาสิทธิการออกแบบ ผลิต ส่งเสริมการขาย และจัดจำหน่ายถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ “PLAYBOY CONDOMS” ในงาน “Bond to Beat A 30-YEAR GLOBAL LICENSE AGREEMENT SIGNING CEREMONY” โดยเตรียมแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1,000 ล้านชิ้นต่อปี เป็น 3,000 ล้านชิ้นต่อปี ใช้เงินลงทุนเพิ่ม 500-800 ล้าน ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลก 2,000 ล้าน คาดว่าภายใน 3 ปี ก้าวสู่ผู้นำตลาด

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (TNR PLC) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดถุงยางอนามัยทั่วโลกมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท เติบโต 5-7% และมีแนวโน้มเติบโต 8-10% ขณะที่ในประเทศไทยมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท โต 7% ด้วยจุดแข็งของบริษัท TNR PLC ก่อตั้งมายาวนานกว่า 31 ปี มีการลงทุนในใบอนุญาตกว่า 500 ล้านบาท และความเชี่ยวชาญในการผลิตถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง พร้อมกับมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุด 2,000 ล้านชิ้นต่อปี และส่งออกไปขายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก จากโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันกำลังการผลิตเต็ม เตรียมแผนขยายกำลังการผลิตเป็น 3,000 ล้านชิ้นต่อปี ใช้เงินลงทุนเพิ่ม 500-800 ล้านบาท

นายอมร ยังกล่าวอีกว่า จากการที่เราเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตในกลุ่มถุงยางอนามัยระดับพรีเมียม ที่ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ได้มองถุงยางอนามัยเป็นเพียงอุปกรณ์การคุมกำเนิด และป้องกันโรค แต่ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการเลือกใช้งานถุงยางอนามัยที่แสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ และตัวตนของผู้ใช้ รวมไปถึงภาพลักษณ์แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ การร่วมมือกันระหว่าง TNR PLC และ PLBY Group, Inc. ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระยะยาว จึงตอบโจทย์และนับเป็นการผสานจุดแข็ง PLBY Group ก่อตั้งมา 71 ปี มีเครือข่ายทั่วโลก สู่การผลิตดถุงยางอนามัยอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เริ่มทำตลาดปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลก 2,000 ล้านบาท คาดว่าภายใน 3 ปี จะมีส่วนแบ่งการตลาด 50% ก้าวสู่ผู้นำตลาด

โดยการทำตลาดเน้นการส่งออก 4 ประเทศหลัก คือ สหรัฐอเมริกา อินเดีย จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งมีปริมาณการใช้ถุงยางอนามัยสูง สำหรับตลาดถุงยางอนามัยที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก คือ จีน ความต้องการ 7,000 ล้านชิ้นต่อปี มูลค่าตลาดกว่า 80,000 ล้านบาท ตามด้วย สหรัฐอเมริกา อินเดีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจาก Mr. Ben Kohn ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก PLBY Group, Inc. เข้าร่วมแสดงความยินดี และพูดคุยถึง แบรนด์ PLAYBOY และความสำคัญในการร่วมมือกันในครั้งนี้ "PLBY Group., Inc. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระยะยาวกับ TNR PLC ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรมล้ำสมัย จะนำพาถุงยางอนามัยแบรนด์ Playboy ให้สามารถเข้าจัดจำหน่ายในตลาดทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว" เขากล่าว "การเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์กับ TNR PLC ถือเป็นก้าวสำคัญทางธุรกิจ และเรารอคอยที่จะทำงานร่วมกับ TNR PLC ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดโลก"

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการเผยกลยุทธ์การตลาดว่า TNR PLC พร้อมขยายตลาดถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ PLAYBOY CONDOMS ได้ทันที ด้วยเครือข่ายขนาดใหญ่ และคู่ค้าทั่วโลกหลากหลายประเทศที่สนใจเป็นตัวแทนกระจายสินค้า เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รวมถึงตลาดใหม่อย่าง อินเดีย เวียดนาม แอฟริกา และประเทศอื่น ๆ ในอนาคต ที่ประชาชนมีฐานรายได้เพิ่มมากขึ้น และในอนาคต PLAYBOY CONDOMS ยังมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เจลหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา (CBD) และการพัฒนาผลิตถุงยางอนามัยบางที่สุด 0.02 ซึ่งบางกว่าที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่า และสร้างสีสันวงการถุงยางอนามัยให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นในสายตาผู้บริโภค เริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2568

ผู้บริหารทั้งสองท่านเชื่อมั่นว่าการจับมือกันของทั้งสองบริษัทในครั้งนี้จะสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์เพื่อส่งมอบคุณค่าที่โดดเด่นยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้งาน พัฒนาการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตร และผู้ถือหุ้น ถึงการมุ่งใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพทางรายได้ และการเติบโตในส่วนแบ่งการตลาดของอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติอย่างแน่นอน