• SCB EIC เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ส.ค. 2024 ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ 7% ทำให้ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะสามารถขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยที่ 2.6% และ 2.8% ในปี 2024 และ 2025 ยังถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2010-2019 ที่ 5.3% --- ปัจจัยการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวได้ในภาพรวม แม้จะชะลอตัวลงบ้างในหลายประเทศ รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และแรงกดดันด้านค่าระวางเรือที่เริ่มลดลง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในปี 2024 อาจขยายตัวได้มากกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% แต่ต้องจับตาผลกระทบเพิ่มเติมจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย การแข็งค่าของเงินบาท และการยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย
Home ไปรษณีย์ไทย-สคบ. รับ 'มาตรการส่งดี' คนขาย-ผู้รับมั่นใจได้ใช้ COD เริ่ม 3 ตุลาคม นี้
ไปรษณีย์ไทย-สคบ. รับ 'มาตรการส่งดี' คนขาย-ผู้รับมั่นใจได้ใช้ COD เริ่ม 3 ตุลาคม นี้

ไปรษณีย์ไทย-สคบ. รับ 'มาตรการส่งดี' คนขาย-ผู้รับมั่นใจได้ใช้ COD เริ่ม 3 ตุลาคม นี้

กรุงเทพฯ 30 กันยายน 2567-บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขานรับ “มาตรการส่งดี” ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. กำหนดแนวปฏิบัติร่วมกับ สคบ. โดยออกหลักฐานการรับเงินให้ผู้รับสินค้า และผู้ส่งจะต้องเพิ่มข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับรายละเอียดสินค้าและการชำระเงินแบบเรียกเก็บเงินปลายทาง เพื่อประโยชน์ผู้บริโภคและผู้ขายสินค้า เริ่ม 3 ตุลาคมนี้

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่ สคบ. ได้ออกมาตรการส่งดี หรือ Dee-Delivery เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งต้องจัดทำหลักฐานการรับเงินให้ผู้รับสินค้าทันทีที่ได้รับชำระเงิน และต้องถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนนำเงินส่งให้ผู้ส่งสินค้า อีกทั้งยังให้สิทธิผู้รับสินค้าสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ และต้องบันทึกภาพถ่าย/วิดีโอไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง หากพบว่าสินค้ามีปัญหา เช่น ได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ สินค้าชำรุด ฯลฯ สามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้ หรือหากรับสินค้าไว้และชำระเงินแล้วตรวจสอบภายหลังพบว่าสินค้ามีปัญหา สามารถขอคืนสินค้าและขอเงินคืนได้ภายใน 5 วัน และผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ต้องคืนเงินให้กับผู้บริโภคภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้ให้บริการขนส่งหลักของชาติที่มีบริการเรียกเก็บเงินปลายทาง หรือ COD ที่พ่อค้าแม่ค้าไว้วางใจใช้บริการมาโดยตลอด รวมทั้งลูกค้าผู้ใช้บริการก็มั่นใจในการส่งมอบพัสดุถึงปลายทางตามมาตรฐาน EMS โดยได้เตรียมความพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายนี้ร่วมกับ สคบ. ตั้งแต่เริ่มมีการหารือมาตรการส่งดี โดยเฉพาะในส่วนของพี่ไปรฯ หรือบุรุษไปรษณีย์ซึ่งจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่หลักตั้งแต่การตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง คำสั่งซื้อ การให้คำอธิบายและข้อชี้แจงต่อผู้รับสินค้าหากกรณีหนึ่งกรณีใดเกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ความยินยอมปฏิบัติตามข้อบังคับที่กำหนดในด้านการถือเงินค่าสินค้าเป็นเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ส่งสินค้า นอกจากนี้ ยังจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนกลางทั้งการให้บริการรับฝาก-นำจ่ายที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีระบบในด้านข้อมูลที่แม่นยำ พ่อค้าแม่ค้าและผู้รับปลายทางสามารถเชื่อถือและมั่นใจในบริการ COD ไปรษณีย์ไทย ได้แน่นอน”

มาตรการส่งดี เป็นมาตรการที่ สคบ. ออกมาคุ้มครองผู้บริโภคที่ประสบปัญหาสินค้าไม่ตรงปก ชำรุดเสียหาย และไม่ได้สั่งสินค้า ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินงานต่าง ๆ โดยผู้ส่งสินค้าผ่านไปรษณีย์ไทย ต้องแจ้งข้อมูลผู้ส่ง รายละเอียดสินค้า ราคา ข้อมูลผู้รับสินค้า จำนวนเงินเรียกเก็บปลายทาง และสำหรับผู้รับสินค้า ไปรษณีย์ไทยจะออกหลักฐานการรับเงิน ซึ่งเลือกได้ในรูปแบบกระดาษหรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ มีทั้งรายละเอียดผู้ส่ง รายละเอียดการส่ง รายละเอียดสินค้า ราคา จำนวนเงินเรียกเก็บปลายทาง ระยะเวลาการเก็บเงินก่อนโอนเข้าบัญชีผู้ส่ง ระยะเวลาขอคืนสินค้าและรับเงินคืนจากไปรษณีย์ไทย รวมทั้งผู้รับสินค้าตามจ่าหน้าสามารถขอเปิดดูสินค้าก่อนรับสินค้าได้ทันที โดยหากสินค้าไม่ตรงกับที่สั่ง ชำรุดเสียหาย หรือไม่ได้สั่งสินค้าชิ้นดังกล่าว ให้ปฏิเสธการรับสินค้าได้ทันทีเช่นกัน หรือมาติดต่อที่ไปรษณีย์ภายใน 5 วันนับตั้งแต่วันที่รับสินค้า เพื่อแจ้งปฏิเสธการรับและขอเงินคืน เพื่อไปรษณีย์ไทยจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและคืนเงินต่อไป