บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม สานสัมพันธ์สื่อมวลชน ภายใต้โครงการ อยากเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง เป็นครั้งที่ 7 ในหัวข้อ “ตัวแทนประกันวินาศภัยในยุควิถีใหม่” ดลเดช สัจจวีระกุล ย้ำโควิด-19 ไม่กระทบยอดขาย ด้วยจุดแข็งมาตรฐานทางการขาย การบริการ เตรียมหาตัวแทนคนรุ่นใหม่ทายาทตัวแทนรุ่นเก่า เติมเต็มเสริมแบรนด์วิริยะประกันภัยแข็งแกร่ง
นายดลเดช สัจจวีระกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “วิริยะประกันภัย แม้จะเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจนี้มานาน ทำให้ถูกมองว่าขนาดใหญ่อุ้ยอ้าย แต่ผมมองว่าเป็นความมั่นคง แนววิถีใหม่สำหรับตัวแทนเชื่อว่าการใช้เครื่องมือผสมผสานกัน จุดแข็งที่มีอยู่เสริมเข้าไปให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ความทันสมัยที่ต้องใช้นำมาเป็นเครื่องมือสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้า โลกไม่ได้มีข้อกังวลมากนัก ถ้าเราปรับตัวไปกับมัน ความวิตกไม่ใช่ปัญหา ถ้าพร้อมจะแก้ไข ความกังวลใจต้องมีบ้าง แต่อย่านำความกังวลใจไปเป็นอุปสรรค”
ผลจากโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ วิริยะประกันภัย เนื่องจากโครงสร้างการขายสามารถทดแทนกันได้ ส่วนเรื่องการพักใบอนุญาต ตามกฎหมายใหม่ของ สำนักงาน คปภ. นั้น ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน วิริยะประกันภัย มีการคัดเลือกดูแล และปัจจุบันมีการตรวจสอบมาตรฐานของตัวแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งตัวแทนมีเรื่องล่อแหลมเรื่องเดียวคือ นำเงินลูกค้าไปใช้ไม่นำส่งบริษัท วิริยะประกันภัย มีมาตรฐานด้วยโครงสร้างการชำระเบี้ยประกัน ตามเกณฑ์ของ สำนักงาน คปภ. คือ 85% ในรอบขาย 1 เดือน ตัวแทนต้องชำระ 85% โดยในบริษัทเราสามารถจัดเก็บเบี้ยจากช่องทางงานที่ส่งมาใกล้เคียง 90% สูงกว่ามาตรฐานกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายในช่องทางนี้น้อยที่สุด
ขณะที่ขั้นตอนการรับตัวแทนเข้ามาใหม่ มีฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องการคัดเลือกตัวแทนเข้ามาโดยตรง ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 3 แสนบาท มีแหล่งงานขายที่สามารถระบุได้ และต้องมีการลงทุนที่ชัดเจน ที่ผ่านมา ค้นพบว่าคนไม่ตั้งใจเข้ามาในอาชีพนี้มีจำนวนมาก จึงต้องหาคนที่ตั้งใจทำงาน มีคุณภาพเข้าสู่อาชีพนี้ และด้วยโครงสร้างของบริษัท ได้มีการเตรียมหาตัวแทนที่เป็นคนรุ่นใหม่จะเติมเต็ม เน้นอายุ 30 ปีขึ้นไป และมีคนรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทตัวแทนรุ่นเก่า ซึ่งจะเป็นผู้กำกับทายาทรุ่นใหม่ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เราทำงานและประสบผลสำเร็จจากคนรุ่นเก่า ทายาทรุ่นใหม่ของตัวแทนที่สร้างขึ้นมา คอยนำเทคโนโลยีใหม่มาเสริมให้ตัวแทนรุ่นเก่าที่มีอยู่จำนวนมาก ขณะที่ภายในองค์กรเตรียมคนรุ่นใหม่ เพื่อคุยกับคนรุ่นใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่เข้ามาผสานการทำงาน
สำหรับตัวแทนประกันวินาศภัยในยุควิถีใหม่นั้น อาชีพตัวแทนมีการปรับตัวต่อสถานการณ์ได้เร็วที่สุด สิ่งหนึ่งที่ตัวแทนทำมาและเข้าสู่ยุสมัยในปัจจุบัน คือ การนำสินค้าส่งถึงมือลูกค้าด้วยตัวเอง คือ สิ่งที่ตัวแทนทำมาตลอด หากนำมาปรับสู่วิถีใหม่ เชื่อว่าตัวแทนทำมานานแล้ว การซื้อขายสินค้าวันนี้เป็นวิถีใหม่ซื้อผ่านออนไลน์ทุกระบบ สิ่งที่ตัวแทนทำคือ สินค้าถึงมือลูกค้าทันที อาชีพตัวแทนต้องเรียนรู้ปรับตัว เพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้ในทุกกลุ่มอายุ จุดเด่นสำหรับตัวแทนคือ การบริการ แม้จะมีปริมาณขายมา ห้ามลดหย่อนเรื่องการบริการ วิริยะประกันภัย จึงย้ำห้ามละเลยจุดแข็งในการบริการ ขณะที่สำนักงานศูนย์บริการเป็นองค์ประกอบผสมผสานกันช่วยให้การทำงานแข็งแกร่ง โดยตัวแทนจะเป็นตัวเสริมให้แบรนด์วิริยะประกันภัยแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
“นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องพัฒนาการผสมผสานกันในลักษณะนี้ จะเป็นคำตอบว่าการขายระหว่างความใกล้ชิดกับลูกค้า และนำมาผสมผสานกันเพื่อปรับให้ดีขึ้น ซึ่งบริษัทจะสนับสนุนเครื่องมือที่เป็นความทันสมัยเข้าไป การขายวิถีใหม่อย่าละทิ้งจุดแข็งของเรา หากมองย้อนไปในปี 2560-2561 การขายออนไลน์มาแรงมาก ผมเตือนตัวแทนอย่าวิตก ถ้าเรารักษาจุดแข็ง รักษาส่วนผสมของเราได้ ตามมาตรฐานทางการขาย และยอดขายยังอยู่ แถมยังเพิ่มยอดขายได้ตลอดเวลา เนื่องจากฐานลูกค้าวิริยะประกันภัย เป็นกลุ่มกลางถึงบน จึงไม่มีผลกระทบยอดขายในช่วงที่คนไม่มีกำลังซื้อ” นายดลเดช กล่าว
วิริยะประกันภัย ทำงานโดยไม่เคยตั้งเป้าจากตัวแทน ความใกล้ชิดคือ เป้าหมาย การทำความเข้าใจคือ เป้าหมาย การมีปัญหาปรึกษาหารือคือ เป้าหมาย การที่ให้ตัวแทนพัฒนาตัวเองคือเป้าหมาย สุดท้าย ยอดขายเติบโตเอง