• Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 68 อยู่ที่ 0.84% คาดเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงระยะข้างหน้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้ายังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศซึ่งมีสัญญาณแผ่ว และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือน ก.พ. 68 ที่ปรับลดลงทั้งหมวดเครื่องจักร ยานพาหนะ และก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมหดตัว 7.7%YoY
Home PPS คว้างานจัดจ้างบริหารและควบคุม โครงการ รพ.รามาฯ มูลค่ารวม 346 ล.
PPS คว้างานจัดจ้างบริหารและควบคุม โครงการ รพ.รามาฯ มูลค่ารวม 346 ล.

PPS คว้างานจัดจ้างบริหารและควบคุม โครงการ รพ.รามาฯ มูลค่ารวม 346 ล.

แตกไลน์จำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ EV charger

PPS เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/66 คว้างานจัดจ้างบริหารและควบคุมโครงการ รพ.รามาฯ มูลค่ารวม 346 ล้านบาท พร้อมเพิ่มทุนใน SPP บ.ย่อย ต่อยอดธุรกิจพลังงานสิ่งแวดล้อม แตกไลน์จำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ EV charger ด้าน KANNA กระแสตอบรับดี โครงการอัลตร้าลักซ์ชัวรี่วิลล่า ลุ้นปิดการขายแบบใหม่ราคาใหม่เพิ่ม 1 หลัง ในปีนี้ หลังภูเก็ตบูม รับรัฐบาลใหม่ ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 รายได้ 207.36 ล้านบาท ควบคุมต้นทุนดีดันกำไรขั้นต้นเพิ่ม

ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทเซ็นสัญญางานจัดจ้างบริหารและควบคุมโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี มูลค่ารวม 346 ล้านบาท โดย PPS ได้รับสัดส่วนงาน 40% คิดเป็นงานในมือ (Backlog) ที่ 154 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนปี 2567 มี Backlog รวมเป็น 495 แบ่งเป็นกลุ่ม Healthcare 44% และกลุ่ม Commercial 37% ตามลำดับ


นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มทุนใน บริษัท สะพัฒน์ โปรเจค จำกัด (SPP)  ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อดำเนินธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ เริ่มจัดจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ EV charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึง การตรวจวัด การวางแผนการลดคาร์บอน และการรับรองคาร์บอนเครดิต เพื่อต่อยอดจากธุรกิจการก่อสร้างอย่างยั่งยืนครบวงจร ตามแผนธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง ขานรับภาวะโลกร้อนสร้างการเติบโต

ด้านการเป็นตัวแทนจำหน่ายแอปพลิเคชัน KANNA สำหรับงานบริหารและควบคุมการก่อสร้างโครงการ กระแสตอบรับดี มีลูกค้าให้ความสนใจสอบถามรายละเอียดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทสามารถปิดการขายและรับรู้รายได้ตามกรอบที่วางไว้

สำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอัลตร้าลักซ์ชัวรี่วิลล่าในที่ดินแหลมยามูจ.ภูเก็ต (Headland Cape Yamu) หลังจากที่วางแผนร่วมออกแบบตกแต่งวิลล่ากับหนึ่งในแบรนด์ระดับโลก เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างภาพลักษณ์ของวิลล่า โดยปรับราคาขายเริ่มต้นที่ 350 ล้านบาท ประกอบกับภาพรวมจ.ภูเก็ตปรับตัวดีขึ้น รับรัฐบาลใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าและมีแนวโน้มปิดการขายได้ 1 หลังภายในปีนี้
 
ทั้งนี้ ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้รวม 207.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 203.31 ล้านบาท จำนวน 4.05 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.99% และมีขาดทุนสุทธิ 5.27 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.51 ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรขั้นต้น 50.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 47.16 ล้านบาท จำนวน 3.14 ล้านบาท จากการควบคุมต้นทุนที่ดี

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 105.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 106.04 ล้านบาท จำนวน 0.89 ล้านบาท หรือลดลง 0.84% และมีขาดทุนสุทธิ 6.63 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 8.30 ล้านบาท จำนวน 14.93 ล้านบาท