• ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2566 ลงจาก 3.2% เป็น 2.8% และปี 2567 จาก 3.6% เป็น 3.2% ตามลำดับ หลังแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ต่างประเทศมีความเปราะบางขึ้น โดยเฉพาะโมเมนตัมส่งออกที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอ่อนแอ เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่แผ่วลงกว่าคาด *** ด้าน SCB EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 เหลือ 3.1% (เดิม 3.9%) จากข้อมูลจริงไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าคาดมากและการส่งออกสินค้าที่หดตัวแรงต่อเนื่อง แต่ยังมีแรงหนุนหลักจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยฟื้นตัวดีตามประมาณการ 30 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางที่เร่งตัวและเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ ส่งผลให้ภาคบริการฟื้นตัวต่อเนื่องช่วยลดความเปราะบางในตลาดแรงงาน สำหรับมุมมองปี 2567 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเร่งขึ้นที่ 3.5% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องเป็น 37.7 ล้านคน
Home READY เผยครึ่งปีหลังดีมานด์แพลตฟอร์มพุ่ง หนุนปี66 รายได้โต 15-20%
READY เผยครึ่งปีหลังดีมานด์แพลตฟอร์มพุ่ง หนุนปี66 รายได้โต 15-20%

READY เผยครึ่งปีหลังดีมานด์แพลตฟอร์มพุ่ง หนุนปี66 รายได้โต 15-20%

READY ชูเทคโนโลยี AI เปลี่ยนโลกธุรกิจ เผยครึ่งปีหลังดีมานด์แพลตฟอร์มสูงขึ้น หนุนปี 66 รายได้โตตามแผน 15-20%

READY ผู้นำด้าน Marketing Technology เดินหน้าพัฒนา ReadyPlannet All-in-one Platform แพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลของไทย นำผลิตภัณฑ์ใหม่รับเทรนด์ AI กระแสแรง รับดีมานด์ผู้บริโภค ล่าสุด เปิดตัว R-Chatbot เอไอแชทบอทเจเนอเรชั่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2566 สัญญาณดี สนับสนุนรายได้ทั้งปีคาดโต 15-20% ตามเป้า ด้านผู้บริหารย้ำ การบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่าย สนับสนุนอัตรากำไรที่แข็งแรง

นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY ผู้นำด้านแพลตฟอร์ม Marketing Technology เปิดเผยแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 เดินหน้าขยายธุรกิจ ย้ำเทรนด์ความต้องการด้านมาร์เก็ตติ้งเทคโนโลยีตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรที่มีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยการเติบโตที่สำคัญมาจากกลยุทธ์การขยายบริการไปยังฐานลูกค้าเดิม และมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานมากขึ้น หรือปริมาณการใช้งานมากขึ้น  

อีกทั้ง สอดรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัดฉีดงบประมาณ หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ สร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจ และเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุน นำเครื่องมือและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการขายและการตลาดเพื่อรับเศรษฐกิจที่เติบโต ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค

โดย READY ชูจุดแข็งและความแข็งแกร่งของ ReadyPlannet All-in-one Platform แพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับการทำการตลาดยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบัน เราพัฒนาความสามารถทางด้าน Personalized Marketing, Marketing Automation และ Data Analytics เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะเทรนด์ด้าน AI กำลังมาแรง

ล่าสุด READY เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด กับ R-Chatbot เอไอเจเนอเรชั่นใหม่เข้ามาช่วยการขาย การดูแลลูกค้า ช่วยตอบข้อความอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำการพัฒนาด้าน AI อย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มของเรา เพื่อให้ ReadyPlannet All-in-one Platform ยกระดับการทำงานของธุรกิจไทยให้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น

ทั้งนี้ READY มองแนวโน้มไตรมาส 3/2566 มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อในด้านการขายและการตลาดที่เริ่มกลับมาแล้ว จากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ลูกค้าชะลอการซื้อเนื่องจากช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทำให้การตลาดและการขายชะลอตัวลงในช่วงระยะเวลานั้น แต่มีสัญญาณดีจากรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าใหม่ (New ARPA) ของไตรมาส 2 ปีนี้ สามารถทำมูลค่าที่สูงสุด (New high) ที่ 6,285 บาท  อีกทั้ง การปรับราคาแพลตฟอร์มการขายและการตลาดของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% เพื่อให้สอดคล้องกับขีดความสามารถ (feature) ของแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพิ่มขึ้น จึงมองเป็นทิศทางที่ดีต่อการเติบโตในอนาคต

READY พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านเว็บไซต์ (Website), โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising), ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และระบบจองโรงแรมโดยตรง (Hotel Direct Booking) โดยงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้ 76.75 ล้านบาท เติบโต 18% กำไรสุทธิ 11.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมั่นใจ บริษัทฯ จะสร้างรายได้รวมปี 2566 โต 15-20% เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมด้วยการบริหารต้นทุนให้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ และบริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น