• SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้ยังมีแรงส่งจากการบริโภคภาคเอกชนและท่องเที่ยว คาดว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจาก 1) เป็นการรักษาสถานะความเป็นกลางของนโยบายการเงิน (Neutral stance) จากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว (Neutral rate) ลดต่ำลงจากเดิม และ 2) มติ กนง. ล่าสุดยังออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ต่อเนื่อง *** มองกรอบเงินบาทอยู่ที่ 35.80 - 36.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสิ้นปีนี้ เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยในกรอบ 34.00-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
Home UAC คิกออฟแหล่งผลิตปิโตรเลียม L10 - L11 เดือน ก.ย.นี้
UAC คิกออฟแหล่งผลิตปิโตรเลียม L10 - L11 เดือน ก.ย.นี้

UAC คิกออฟแหล่งผลิตปิโตรเลียม L10 - L11 เดือน ก.ย.นี้

เดินเครื่องผลิตปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์เดือนกันยายนนี้ ตอกย้ำเสถียรภาพทั้งรายได้และการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

กรุงเทพฯ - บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) จ่อเดินเครื่องผลิตปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์เดือนกันยายนนี้หลังรับโอนสิทธิสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมเข้าลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมหมายเลข L10/43 และ L11/43 ตั้งแต่ต้นปี 2565 พร้อมเป้าผลิต 300 บาร์เรลต่อวัน หวังสร้างรายได้เพิ่ม 250 ล้านบาท/ปี ตอกย้ำการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรายได้มีความมั่นคงและยั่งยืน พร้อมยังช่วยสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้กับประเทศมากยิ่งขึ้น

 

 

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ “UAC” เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมดำเนินการผลิตปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ภายในเดือนกันยายนนี้ หลังได้รับโอนสิทธิสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L10/43 และ L11/43 ในพื้นที่อรุโณทัยและบูรพา จังหวัดสุโขทัยในไตรมาส 1/2565 โดยสัมปทานปิโตรเลียมดังกล่าวมีอายุถึงปี 2576

 

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% สามารถผลิตน้ำมันดิบได้เฉลี่ยวันละ 300 บาร์เรล โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ น้ำมันดิบที่ได้มีการเตรียมแผนเพื่อจำหน่ายให้กับโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ และก๊าซธรรมชาติที่บริษัทจะส่งให้กับโรงแยกก๊าซธรรมชาติในกลุ่ม UAC ประกอบด้วย โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) โรงไฟฟ้าเสาเถียร และโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า

 

 

“การสำรวจ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ในการขุดเจาะแหล่งผลิตปิโตรเลียมดังกล่าวสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เฉลี่ยวันละ 300 บาร์เรล สามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2565 โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 250 ล้านบาทต่อปี อ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ณ ปัจจุบัน”

 

นอกจากนี้เป็นช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่บริษัท และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัท อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่บริษัทในอนาคต นอกจากนี้ การดำเนินโครงการนี้ เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ