• SCB EIC ประเมินว่าการส่งออกสินค้าเดือน มี.ค. 2024 ในรูป %YOY มีแนวโน้มหดตัวแรงจากปัจจัยฐานสูง แม้ภาคการผลิตและการค้าโลกจะอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว เนื่องจากมีการส่งออกทองคำในเดือน มี.ค. 2023 มากถึง 1,568.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปกติมาก ข้อมูลจากการแถลงข่าวของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกในเดือน มี.ค. 2024 จะอยู่ที่ราว 25,500 – 26,500 หดตัวประมาณ -5.4% ถึง -8.9%  *** ด้าน Krungthai COMPASS เผยส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัว 3.6%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แต่ชะลอลงจาก 10.0%YoY เมื่อเดือนก่อน ประเมินว่าการส่งออกยังฟื้นตัวได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการส่งออกในปี 2567 ให้ขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 1.8% โดยการส่งออกไม่รวมทองคำเดือน ก.พ. ขยายตัวที่ 1.2% จากสินค้าสำคัญหลายรายการที่ยังหดตัวต่อเนื่อง เช่น ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออกไปยังประเทศสำคัญมีความไม่นอนสูงโดยเฉพาะยุโรป และญี่ปุ่น
Home ทรัสต์ PROSPECT โชว์ผลงาน Q4 โดดเด่นท่ อัตราเช่าพื้นที่เพิ่มเป็น 95%
ทรัสต์ PROSPECT โชว์ผลงาน Q4 โดดเด่นท่ อัตราเช่าพื้นที่เพิ่มเป็น 95%

ทรัสต์ PROSPECT โชว์ผลงาน Q4 โดดเด่นท่ อัตราเช่าพื้นที่เพิ่มเป็น 95%

ทรัสต์ PROSPECT โชว์ผลงาน Q4 โดดเด่นท่ อัตราเช่าพื้นที่คลังสินค้า-โรงงานเพิ่มเป็น 95%

 

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT โชว์ผลงานไตรมาส 4/2563 โดดเด่น แม้มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดันอัตราเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 95% สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า จากการเพิ่มผู้เช่าใหม่อีก 10 ราย และต่อสัญญากับผู้เช่าเดิมในรอบปีที่ผ่านมาสูงกว่า 80% บอร์ดอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.2805 บาทต่อหน่วย พร้อมศึกษาความเป็นไปได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่

 

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/ 2563 กองทรัสต์ PROSPECT ซึ่งมีทรัพย์สินประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูป ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนหรือ Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) ย่านบางนา-ตราด กิโลเมตร ที่ 23 คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 2.2 แสนตารางเมตร ยังคงมีผลการดำเนินที่ดี แม้อยู่ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก

 

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของกองทรัสต์ฯ ณ สิ้นไตรมาส 4/2563 มีอัตราการเช่าพื้นที่ 95% เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้เซ็นสัญญากับผู้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 10 ราย คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมประมาณ 14,000 ตารางเมตร โดยมีทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น ที่ดำเนินธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้ขยายการลงทุนมายังประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็สามารถต่อสัญญากับผู้เช่าเดิมได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีอัตราการต่อสัญญาของผู้เช่าเดิมในรอบปีที่ผ่านมาสูงกว่า 80%

 

“ปัจจุบันเรามีรายชื่อลูกค้าที่แสดงความต้องการเช่าพื้นที่อีกกว่า 30 ราย เนื่องจากคลังสินค้าและโรงงานของกองทรัสต์ฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ และมีพื้นที่เขตปลอดอากรหรือ Free Zone ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ประกอบกับเรามีลูกค้าที่กระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จึงแทบไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา” นางสาวอรอนงค์ กล่าว

 

นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ดี ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยล่าสุด มีมูลค่าถึง 10.0594 บาท และเติบโตอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทน จากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2563 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ อัตรารวม 0.2805 บาทต่อหน่วย โดยจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Book Closing Date) ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ และกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 15 มีนาคม 2564

 

ทั้งนี้ กองทรัสต์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ ประเภทคลังสินค้า โรงงานและศูนย์โลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มจำนวนสินทรัพย์สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่กองทรัสต์ นอกเหนือไปจากโครงการที่พัฒนาโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด อีก 2 โครงการคือ BFTZ2 บนถนนเทพารักษ์ และ BFTZ3 บนถนนบางนา-ตราด กม.19

 

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมคลังสินค้าและโรงงานในปี 2564 มั่นใจว่าจะมีความต้องการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการแผนขยายการลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตในบางอุตสาหกรรม เนื่องจากมีอุตสาหกรรมบางประเภท อาทิ ธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ ฯลฯ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังดำเนินการได้ตามปกติ รวมถึงต้องติดตามปัญหาการเมืองในเมียนมาจะส่งผลให้เกิดเคลื่อนย้ายฐานการผลิตในอนาคตหรือไม่

 

“เรามั่นใจว่า ในปีนี้กองทรัสต์ฯ จะสามารถทำผลการดำเนินงานและจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยในช่วงไตรมาสแรกนี้มีผู้เช่าเดิมที่ทยอยหมดสัญญา 13 ราย คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 13,000 ตารางเมตร ในจำนวนนี้เราต่อสัญญาเช่าได้แล้ว 11 ราย และรายที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจา ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล จึงมั่นใจกองทรัสต์ PROSPECT จะเป็นทางเลือกที่ดี” นางสาวอรอนงค์ กล่าว