• Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 68 อยู่ที่ 0.84% คาดเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงระยะข้างหน้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้ายังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศซึ่งมีสัญญาณแผ่ว และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือน ก.พ. 68 ที่ปรับลดลงทั้งหมวดเครื่องจักร ยานพาหนะ และก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมหดตัว 7.7%YoY
Home ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชูมาตรฐาน ‘Green Living Standard’ ยกระดับวัสดุพื้นฐานสู่วัสดุรักษ์โลก
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชูมาตรฐาน ‘Green Living Standard’ ยกระดับวัสดุพื้นฐานสู่วัสดุรักษ์โลก

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชูมาตรฐาน ‘Green Living Standard’ ยกระดับวัสดุพื้นฐานสู่วัสดุรักษ์โลก

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชูมาตรฐาน ‘Green Living Standard’ ยกระดับวัสดุพื้นฐานสู่วัสดุรักษ์โลก ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ

‘กระแสรักษ์โลก’ ความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จุดประกายไอเดียพัฒนาแนวคิด ‘Green Living Standard’ สร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยด้วยแนวคิดการออกแบบที่เข้าใจถึงความต้องการอย่างแท้จริง ผสานความใส่ใจห่วงใยสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงยึดนโยบายด้าน ESG : Environmental (สิ่งแวดล้อม) ,Social (สังคม) และ Governance (บรรษัทภิบาล) ที่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นตั้งแต่การสร้างสรรค์แนวคิดในการพัฒนาโครงการ จนถึงงานออกแบบในแต่ละขั้นตอนที่ใช้ความพิถีพิถันในทุกกระบวนการ การคัดสรรวัสดุ และMaterialsต่างๆ เพื่อให้ได้โซลูชันใหม่ๆ นำเสนอสู่ผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อลูกค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

"เราให้ความสำคัญตั้งแต่การเฟ้นหาที่ดินคุณภาพเพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในเครือ ตลอดจนมีการวางผังภายในโครงการให้บ้านแต่ละหลังสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวให้รับแสงแดด รับทิศทางลม โปร่ง โล่ง และอยู่สบาย ที่สำคัญโครงการของเราจะต้องพัฒนาสู่การเป็นชุมชนที่สามารถใช้งานพื้นที่สีเขียวของส่วนกลางได้อย่างทั่วถึง และมีการวางภาพรวมแบบบ้านทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม รวมไปถึงบ้านแนวคิดใหม่ได้อย่างลงตัว เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น และแออัดจนเกินไป ทำให้เมื่ออยู่อาศัยแล้วจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น" นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ แนวคิดในการลดปริมาณขยะ และปัญหาฝุ่นในเขตพื้นที่การก่อสร้างของโครงการนั้น ทางบริษัทฯ ได้มีการใช้โครงสร้างสำเร็จรูปที่ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางปฏิบัติที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้เล็งเห็นแล้วว่า จะสามารถช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ลดลงได้ในระยะยาว ทั้งในเรื่องมลภาวะฝุ่น และขยะที่ไม่จำเป็นในการก่อสร้าง ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยี Precast ในการสร้างบ้าน "ซึ่งมีข้อดีคือจะช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาเรื่องมลภาวะฝุ่นในอากาศ และช่วยลดเรื่องเสียงรบกวนในขณะก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีความคงทนแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าผนังที่ก่ออิฐฉาบปูนอีกด้วย โดยเราค่อนข้างตระหนักถึงการเป็นผู้ประกอบการที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง อีกหนึ่งประการที่เราให้ความสำคัญอย่างมากคือการพัฒนาในเรื่องระบบน้ำ (Reuse Water) ซึ่งทั้งนี้เราได้มีกระบวนการนำน้ำจากการใช้แล้ว และน้ำฝนที่ตกตามธรรมชาติมาผ่านขั้นตอนเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้อย่างคุ้มค่า โดยการติดตั้งถังบำบัดน้ำภายในโครงการ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้น้ำประปาลงได้อย่างมาก และกำหนดให้เป็นมาตรฐานของบริษัทฯ ในด้านวัสดุตกแต่งส่วนต่างๆ ของบ้านนั้น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็จะเกาะติดเพื่ออัพเดทข้อมูลสินค้าใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามนโยบาย Green Living พร้อมนำวัสดุเข้ามาใช้ในโครงการอยู่เสมอ ส่วนเทรนด์ด้านสุขภาพก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นเช่นกัน เราจึงต้องค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับด้านดังกล่าว มาพัฒนาแนวคิดในการออกแบบฟังก์ชันทั้งใน และนอกตัวบ้านให้เสริมด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการด้วย เพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขในทุกๆ วันของลูกบ้าน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ทุกโครงการ"

ด้านภาพรวมกระแสรักษ์โลกของผู้บริโภคในอนาคตนั้น นายชูรัชฏ์ แสดงมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า "ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความใส่ใจต่อกระแส Green Living หรือธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงกระแสโลกที่มีความพยายามที่จะลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งธุรกิจที่อยู่อาศัยเองก็ต้องมุ่งเน้นไปที่เรื่องการประหยัดพลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าให้มากที่สุดเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการใส่ใจ และร่วมกันดูแลโลก ซึ่ง ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการพัฒนาสินค้าและออกแบบให้มีฟังก์ชันลดการใช้พลังงานให้น้อยลง อาทิ การเพิ่มช่องแสงที่โถงบันไดเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโดยใช้แสงจากธรรมชาติ, การติดตั้งพัดลมดูดอากาศภายในบ้านเพิ่มการหมุนเวียนอากาศ ช่วยระบายความร้อน ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง, การใช้ไฟส่องสว่างแบบ Solar Cell ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ, มีการเลือกใช้วัสดุทดแทนวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ใช้กระเบื้องลายหินอ่อนที่เป็นหินสังเคราะห์ เพื่อให้ความรู้สึกที่ทดแทนวัสดุที่เป็นหินอ่อนแท้จากธรรมชาติ รวมถึงการเตรียมจุดรองรับเพื่อชาร์ตรถยนต์ EV ในอนาคตเพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย โดยบริษัทฯ ได้คำนึงถึงเรื่องความร่มรื่น และการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมภายในโครงการ จึงจัดให้มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลาง และได้มีการนำไม้ยืนต้นมาช่วยฟอกอากาศ เพื่อช่วยลดการเกิดปัญหามลภาวะจากฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกคิดค้น และพัฒนาขึ้นให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ Green Living Standard เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปให้เกิดความสมดุลทั้งต่อลูกค้า และสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่ยั่งยืนของเราทุกคน"